(ขึ้นอยู่กับรุ่น)

1. หมายเลขประจำเครื่อง

2. รหัส

3. ประเภท

4. เครื่องหมายการค้า

5. รุ่น

6. ข้อมูลทางเทคนิค

7. ข้อบ่งชี้/สัญลักษณ์การปฏิบัติตาม

แผ่นอ้างอิงพร้อมกับข้อมูลพื้นฐานบนอุปกรณ์ติดอยู่ที่ด้านล่างของเตา สามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับประเภทและรุ่นของอุปกรณ์ได้บนใบรับประกันสินค้า

หากเตาของคุณเป็นพื้นผิวกระจกเซรามิก ให้ทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ และน้ำยาล้างจานเล็กน้อย ห้ามใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์รุนแรง อย่างเช่น น้ำยาผสมผงขัด ซึ่งอาจทำให้เกิดรอยขีดข่วน ฟองน้ำใยขัด หรือน้ำยาขจัดคราบสกปรก

ในระหว่างการใช้งานครั้งแรก อาจมี "กลิ่นเครื่องใหม่" ปรากฏขึ้น ซึ่งจะค่อย ๆ หายไป

A ปุ่มเปิด/ปิดหัวเตา

B ระบบควบคุมการล็อกเตาเพื่อความปลอดภัย/ระบบล็อกเพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็ก

C ฟังก์ชัน IQ

D ตัวเลื่อน

E ฟังก์ชันอัจฉริยะ

E1 ตัวตรวจจับตำแหน่งกระทะอัตโนมัติและการเชื่อมพื้นที่เตาอัตโนมั

E2 การเปลี่ยนระดับความร้อนด้วยการขยับกระทะ

F ฟังก์ชันตั้งเวลา

G ปุ่มตั้งค่าการตั้งเวลาโปรแกรม

H ฟังก์ชัน Stop/Go และเรียกคืนค่า

I การตั้งค่า

J การประกอบอาหารอย่างช้า ๆ

K การประกอบอาหารที่มีน้ำปริมาณมาก

L การทอด/การทอดด้วยความร้อนสูง

M การละลายอาหารแช่แข็ง

N การอุ่นร้อนอาหาร

O ปุ่มปิดสวิตช์เตาด่วน

P หน้าจอแสดงเตาที่เชื่อมกันอยู่

R ปุ่มเปิดใช้งานและแสดงฟังก์ชัน IQ

S หน้าจอแสดงระดับความร้อนและความร้อนตกค้าง

S1 ครึ่งขั้นตอน

T ปุ่มเปิดใช้งานการตั้งเวลาโปรแกรม

U ปุ่มลดการตั้งค่าในการตั้งเวลา

V ปุ่มเพิ่มการตั้งค่าในการตั้งเวลา

Z หน้าจอแสดงการตั้งเวลา

นอกจากนี้ หน้าจอยังทำหน้าที่เป็นปุ่มสำหรับปรับการตั้งค่า

• แตะหน้าจอแสดงผลเพื่อเลือกเตาประกอบอาหารที่ต้องการ หน้าจอของเตาที่เลือกจะกระพริบ ปุ่มบนตัวเลื่อน (D) จะติดเป็นแสงสลัว (เฉพาะบางรุ่นสินค้า)

• แตะพื้นผิว/ตำแหน่งที่ต้องการเลือกบนตัวเลื่อน (D) ภายใน 5 วินาที หน้าจอจะหยุดกระพริบและจะแสดงค่าระดับความร้อนที่ตั้งไว้ในขณะนั้น ฟังก์ชันตั้งเวลา (T) และปุ่มปิดสวิตช์เตาด่วน (O) จะปรากฏขึ้นถัดจากค่า ระดับความร้อนของเตาที่เลือกไว้ (S) หน้าจอแสดงผลทั้งสองจะติดเป็นแสงสลัว

• หัวเตายังคงเปิดใช้งานอยู่

• หากเตาจดจำภาชนะใด ๆ บนหัวเตาที่เลือกไม่ได้ สัญลักษณ์ จะปรากฏขึ้น หากคุณไม่วางภาชนะบนหัวเตาที่เลือกภายใน 2 นาที หัวเตาจะปิดสวิตช์โดยอัตโนมัติ

ลือกเตาที่ต้องการด้วยการกดหน้าจอแสดงระดับความร้อน (S) สามารถตั้งค่าระดับความร้อนได้ด้วยการเลื่อนหรือการแตะบริเวณหรือตำแหน่งบนตัวเลื่อน (D) โดยตรง

เตาประกอบอาหารที่อยู่ติดกันตามแนวยาวสองเตา (เตาหนึ่งด้านหลังอีกเตาหนึ่ง)

• ไม่สามารถเปิดใช้งานฟังก์ชันเร่งความร้อนอย่างรวดเร็ว (Power Boost) สำหรับเตาสองเตาที่อยู่บนหัวเตาด้านเดียวกันพร้อมกันได้ (เช่น เตาด้าน ซ้ายทั้งคู่ หรือเตาด้านขวาทั้งคู่) เพราะจะทำให้กระแสไฟเกิน

• หากตั้งค่าฟังก์ชันเร่งความร้อนอย่างรวดเร็วไว้กับเตาหนึ่งแล้ว กำลังไฟสูงสุดสำหรับอีกเตาหนึ่งจะอยู่ที่ 9

หัวเตาทั้งหมดได้รับการติดตั้งมาพร้อมกับกลไกพิเศษที่ตั้งค่ากำลังความร้อนในการปรุงอาหารเป็นสูงสุดเมื่อเริ่มกระบวนการปรุงอาหาร โดยไม่คำนึงถึงการตั้งค่ากำลังความร้อนจริง หลังจากผ่านไปสักครู่หนึ่ง กำลังความร้อนของหัวเตาจะเปลี่ยนกลับไปเป็นระดับที่ตั้งไว้ในตอนแรก สามารถเปิดใช้งานระบบทำความร้อนอย่างรวดเร็วโดยอัตโนมัติบนหัวเตาทั้งหมดสำหรับระดับกำลังความร้อนในการปรุงอาหาร ยกเว้นระดับ "9" และ "P"

ฟังก์ชันระบบทำความร้อนอย่างรวดเร็วโดยอัตโนมัติเหมาะสำหรับอาหารที่ต้องอุ่นและปรุงเป็นเวลานานโดยไม่ต้องมีการควบคุมอย่างต่อเนื่อง

ฟังก์ชันระบบทำความร้อนอย่างรวดเร็วโดยอัตโนมัติเหมาะสำหรับอาหารที่ต้องอุ่นและปรุงเป็นเวลานานโดยไม่ต้องมีการควบคุมอย่างต่อเนื่อง

(ขึ้นอยู่กับรุ่น)

• สินค้าบางรุ่นสามารถเชื่อมต่อเตาประกอบอาหารสองเตาให้เป็นเตาขนาดใหญ่เตาเดียวได้ ทำให้สามารถวางกระทะทรงรีขนาดใหญ่หรือแผ่น กระทะปิ้งย่างไว้บริเวณเตาประกอบอาหารที่เชื่อมกันได้ โดยกระทะนั้นต้องใหญ่พอที่จะครอบบริเวณตรงกลางเตาทั้งเตาด้านบนกับด้านล่างได้

• ขนาดภาชนะสูงสุด : 40 x 25 ซม. เพื่อให้กระจายความร้อนได้ทั่วถึง เราขอแนะนำให้ใช้จานอบหรือกระทะก้นหนา ในระหว่างการปรุงอาหาร จานหรือกระทะจะร้อนขึ้น ระมัดระวังเพื่อป้องกันไม่ให้ได้รับแผลไหม้

• เมื่อวางจานอบบนเตา ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่ได้ปิดบังโมดูลส่วนควบคุม

(เฉพาะบางรุ่นเท่านั้น)

ร้อน ปุ่มตรวจจับกระทะ (E1) จะติดขึ้นเป็นไฟสลัว การเชื่อมเตาประกอบอาหาร อัตโนมัติสามารถทำได้กับเตาที่อยู่ติดกันในแนวตั้ง ตัวตรวจจับตำแหน่งกระทะ อัตโนมัติสามารถเปิดใช้งานเมื่อใดก็ได้เป็นเวลา 10 วินาทีด้วยการกดปุ่มตรวจจับ ตำแหน่งกระทะ (E1) โดยการตรวจจับตำแหน่งกระทะและการเชื่อมเตาประกอบ อาหารอัตโนมัตินั้นใช้ได้กับเตาประกอบอาหารที่ยังไม่เปิดใช้งานเท่านั้น สามารถปิดสวิตช์ฟังก์ชันการเชื่อมเตาได้ด้วยการตั้งค่าระดับความร้อนไปที่ "0" หรือด้วยการกดปุ่มปิดการทำงานของเตานั้น (O) ฟังก์ชันนี้สามารถใช้ได้เมื่อมีกระทะอยู่ บนหัวเตาหรือเมื่อหัวเตาว่างเปล่า

หากไม่มีกระทะวางอยู่บนหัวเตา

• เปิดสวิตช์หัวเตา เตาประกอบอาหารทุกเตาตั้งค่าไว้ที่ »0«

• วางกระทะลงบนเตาประกอบอาหารใดก็ได้ เลข »0« จะกระพริบบนเตาที่มีกระทะวางอยู่ สามารถใช้ตัวเลื่อนเพื่อตั้งระดับความร้อน ฟังก์ชันนี้จะเชื่อม เตาตามขนาดกระทะโดยอัตโนมัติ

• คุณสามารถดำเนินการกับภาชนะถัดไปได้โดยใช้ขั้นตอนเดียวกัน

• ฟังก์ชันนี้ทำให้สามารถตั้งระดับความร้อนได้เร็วยิ่งขึ้น โดยวางกระทะลงบนเตาใดก็ได้ เตานั้นจะตรวจจับกระทะโดยอัตโนมัติ

หากกระทะตั้งอยู่บนหัวเตาแล้ว:

• เปิดใช้งานหัวเตา

• เลข »0« จะกระพริบบนหน้าจอของเตาที่มีกระทะวางอยู่ สามารถใช้ตัวเลื่อนเพื่อตั้งค่าระดับความร้อน

• หากมีกระทะหลายใบอยู่บนเตาประกอบอาหาร เครื่องจะให้เลือกการตั้งค่าสำหรับเตาถัดไป โดยหน้าจอแสดงผลของเตาถัดไปจะมีเลข »0« กระพริบขึ้น

เมื่อกดปุ่มเลือกเตาประกอบอาหาร ตัวตรวจจับกระทะอัตโนมัติจะปิดการทำงานและเครื่องจะเปลี่ยนไปเป็นโหมดการตั้งค่าเอง

(เฉพาะบางรุ่นเท่านั้น)

ไฟของปุ่มควบคุมการ เคลื่อนไหวของกระทะจะสว่างขึ้น หลังจากนั้นจะสามารถปรับระดับความร้อนของเตาประกอบอาหารทั้ง สองเป็นค่าใหม่ด้วยขั้นตอนเดียวกันกับการเปลี่ยนระดับความร้อนปกติ หากต้องการปิดการทำงานของฟังก์ชั่นควบคุมการเคลื่อนไหวของกระทะ ให้กดปุ่มปิดการทำงานแบบฉับพลัน (O) ของหัวเตาหรือตั้งค่าระดับกำลัง ไฟไปที่เลข "0"

(ขึ้นอยู่กับรุ่น)

สำหรับการปรุงอาหารอย่างรวดเร็ว สามารถเปิดใช้งานระบบเร่งความร้อนบนหัวเตาได้ซึ่งจะช่วยให้คุณอุ่นอาหาร ปริมาณมากได้อย่างรวดเร็วโดยใช้ไฟพิเศษ ระบบเร่งความร้อนจะทำงานไม่เกิน 5 นาทีจากนั้นระดับกำลังความ ร้อนจะลดลงเป็น 9 โดยอัตโนมัติหากเตาไม่ร้อนเกินไป หลังจากปิดสามารถเปิดใช้งานระบบเร่งความร้อนอีกครั้ง เป็นเวลา 5 นาทีเพื่อหลีกเลี่ยงความร้อนสูงเกินไป ฟังก์ชันควบคุมอิเล็กทรอนิกส์อาจปิดสวิตช Power Boost ก่อน หน้านี้โดยอัตโนมัติและลดระดับกำลังความร้อนเป็น 9

การเปิดใช้งาน Power Boost

• เลือกเตาประกอบอาหารที่ต้องการและกดตัวเลื่อน (D) ที่สัญลักษณ์ »P«

• จะปรากฏสัญลักษณ์ »P« บนหน้าจอแสดงระดับความร้อน

• ฟังก์ชันเร่งความร้อนไม่ได้เปิดใช้งาน

การปิดใช้งาน Power Boost

• ปิดเตาประกอบอาหารที่เลือกไว้ด้วยปุ่ม (O)

• ลดระดับความร้อน

• เตาติดตั้งมาพร้อมกับพัดลมระบายความร้อนซึ่งจะทำให้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เย็นลงระหว่างการปรุงอาหาร หลังจากสิ้นสุดกระบวนการปรุงอาหารแล้ว พัดลมอาจทำงานสักครู่หนึ่ง

• เตาอินดักชั่นยังติดตั้งมาพร้อมกับอุปกรณ์ป้องกันความร้อนสูงเกินไป ซึ่งจะช่วยป้องกันชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จากความเสียหาย ตัวป้องกันทำงานในหลายระดับ เมื่ออุณหภูมิหัวเตาสูงขึ้นมาก ไฟในการปรุงอาหารจะลดลงโดยอัตโนมัติ หากยังไม่พอ ไฟของหัวเตาจะลดลงอย่างต่อเนื่อง หรือกลไกความปลอดภัยจะปิดหัวเตาโดยสมบูรณ์ ในกรณีดังกล่าว หน้าจอจะอ่านว่า “”F2”” เมื่อเตาเย็นลง พลังงานทั้งหมดจะกลับมาใช้ได้อีกครั้ง

หากปุ่มถูกเปิดใช้งานนานจนเกินไประหว่างการทำอาหาร (เช่น มีของเหลวหกใส่ หรือมีสิ่งของวางอยู่บนปุ่มเซนเซอร์) เตาประกอบอาหารทั้งหมดจะ ปิดสวิตช์หลังจาก 10 วินาที สัญลักษณ์ จะกระพริบบนหน้าจอ

ให้เคลื่อนย้ายสิ่งของ หรือเช็ดทำความสะอาดของเหลวที่หกออกจากปุ่มเซนเซอร์ภายใน 2 นาที ไม่เช่นนั้น หัวเตาประกอบอาหารจะปิดสวิตช์โดยอัตโนมัติ สามารถเรียกการตั้งค่าล่าสุดกลับคืนมาได้ด้วยฟังก์ชันหน่วยความจำ โดยใช้ปุ่ม Stop&Go (H)

ฟังก์ชันนี้ช่วยให้คุณสามารถเรียกใช้การตั้งค่าหัวเตาทั้งหมดได้ หากปิดเตาโดยไม่ได้ตั้งใจ อย่างไรก็ตาม วิธีนี้สามารถทำได้ภายในห้าวินาทีหลังจากที่เตาปิดแล้วเท่านั้น

• ใช้ปุ่มเปิด/ปิดสวิตช์หัวเตา (A) เพื่อเปิดสวิตช์อีกครั้งภายใน 5 วินาทีหลังสวิตช์ปิดไป ปุ่ม (H) จะกระพริบบนหน้าจอแสดงผลเป็นเวลา 5 วินาที ระหว่างนั้น กดปุ่มนี้เพื่อเรียกคืนการตั้งค่าทั้งหมดที่ใช้งานอยู่ก่อนหัวเตาจะปิดสวิตช์ไป

สามารถใช้ฟังก์ชัน Stop&Go เพื่อหยุดการทำงานของเตาทั้งหมดไว้ชั่วคราวได้นานถึง 10 นาที หัวเตาทั้งหมดจะปิดชั่วคราวโดยอัตโนมัติ วิธีนี้สะดวกเมื่อ เช่น อาหารในภาชนะหนึ่งล้นออก และคุณต้องการทำความสะอาดเตา

การเปิดใช้งานฟังก์ชันพักกระบวนการปรุงอาหาร (Stop&Go)

เตาประกอบอาหารต้องใช้งานอยู่อย่างน้อยหนึ่งเตา กดปุ่ม Stop&Go จะมีเสียงสัญญาณสั้น ๆ ดังขึ้น การตั้งค่าทั้งหมดบนหน้าจอแสดงผลจะเริ่มกระพริบ ปุ่มพักการทำงานจะสว่างขึ้นและกระพริบเช่นกัน การตั้งค่าของการตั้งเวลาโปรแกรมหรือการตั้งเวลาถอยหลังทั้งหมดจะพักไว้ ปุ่มทั้งหมดจะไม่สามารถใช้งานได้ ยกเว้นปุ่มพักการทำงาน (stop/go) และปุ่มเปิด/ปิดสวิตช์ หากไม่กดปุ่มใดภายใน 10 นาที เตาประกอบอาหารทั้งหมดที่เปิดใช้งานอยู่ จะปิดสวิตช์อัตโนมัติ

ฟังก์ชันหยุดการพัก/ปิดการใช้งาน Stop&Go

กดปุ่มพักนานกว่า 10 วินาที หัวเตาจะทำงานต่อด้วยการตั้งค่าที่ใช้ก่อนการพักการทำงาน

สามารถล็อกเตาต่อการเปิดใช้งานโดยไม่ได้ตั้งใจ

การปิดใช้งานล็อก

ตัวควบคุมหัวเตาสามารถปลดล็อกได้ด้วยวิธีเดียวกัน (สลับลำดับ) คือ เปิดหัวเตาด้วยการกดปุ่ม จะปรากฏสัญลักษณ์ "L" บนเตาประกอบอาหารทั้งหมด กดปุ่มล็อกป้องกันเด็ก (B) ค้างไว้เวลา 3 วินาที เลข "0" จะปรากฎขึ้นบนหน้าจอแสดงผลของเตาทั้งหมดแทนสัญลักษณ์ "L" และหัวเตาจะพร้อมใช้งาน

หมายเหตุ: หากฟังก์ชันล็อกป้องกันเด็ก (B) เปิดใช้งานในโหมดการตั้งค่าโดยผู้ใช้ (ดูที่ "โหมดการตั้งค่าโดยผู้ใช้") หัวเตาจะล็อกโดยอัตโนมัติทุกครั้งที่ ปิดสวิตช์

ระบบประกอบอาหาร IQ จะควบคุมการประกอบอาหารโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม ระบบนี้ไม่ปิดสวิตช์ฟังก์ชันต่าง ๆ หลังการประกอบอาหารสิ้นสุด ลงโดยอัตโนมัติไปด้วย ซึ่งต้องปิดสวิตช์เอง หรือตั้งเวลาปิดเอาไว้โดยใช้การจับเวลาถอยหลังหรือการตั้งเวลาถอยหลัง

การใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ
สามารถใช้ระบบประกอบอาหาร IQ กับเตาใดก็ได้ ด้วยการกดปุ่ม IQ และเลือกโปรแกรมการประกอบอาหารที่ต้องการ ใช้ฝาปิดภาชนะกับทุกฟังก์ชัน ยกเว้นการทอด/การทอดด้วยความร้อนสูง โดยจะรับประกันการทำงานของโปรแกรมที่เหมาะสมเฉพาะใน ฟังก์ชันนี้เท่านั้น
ใช้หม้อหรือกระทะใบเดิมจนกว่าจะสิ้นสุดกระบวนการประกอบอาหาร
ก่อนเปิดสวิตช์หัวเตา บริเวณเตาและก้นหม้อหรือก้นกระทอต้องแห้งสะอาด

ขั้นตอนการเตรียม:

เติมน้ำกับอาหารลงในหม้อหรือกระทะ วางลงบนเตา

เมื่อประกอบอาหารด้วยน้ำ ดูให้ดีว่าระดับน้ำจากขอบหม้อหรือกระทะไม่น้อยกว่า 50 มม.

• ไว้ สัญลักษณ์ IQ จะสว่างและสัญลักษณ์ "_" จะปรากฏขึ้นบนหน้า จอแสดงผลเพื่ อระบุว่าการทำอาหารเริ่มขึ้นแล้วจอแสดงผลเพื่อระบุ ว่าการทำอาหารเริ่มขึ้นแล้ว
  

• สามารถตั้งฟังก์ชันการตั้งเวลาโปรแกรม (F) ได้

การประกอบอาหารอย่างช้า ๆ
ฟังก์ชันนี้ใช้สำหรับอาหารที่ต้องใช้เวลาทำนานด้วยการให้ความร้อนอย่างช้า ๆ และต้มให้เดือดเบา ๆ เช่นอาหาร: ซุป กูลาช สตู ซอส ข้าว ฯลฯ

โปรแกรมการประกอบอาหารอย่างช้า ๆ ทำให้สามารถผสมผสานโปรแกรมหลายอย่างได้ เช่น ทำซอสโบโลเนส เริ่มจากการเลือกโปรแกรมการทอด/ การทอดด้วยความร้อนสูงเพื่ออุ่นน้ำมัน เมื่อหัวเตามีเสียงสัญญาณ ใส่หัวหอมลงไปทอดด้วยความร้อนสูง ใส่เนื้อ น้ำ มะเขือเทศกระป๋อง สมุนไพรกับ เครื่องเทศ และใช้เตานี้หรือเตาอื่นเพื่อเลือกการประกอบอาหารอย่างช้า ต้มซอสด้วยอุณหภูมิต่ำจนเสร็จสิ้น

ฟังก์ชันนิรภัยของระบบ IQ - สมาร์ทเซนส์
สมาร์ทเซนส์ (SmartSense) ช่วยป้องกันไม่ให้กระทะไหม้ สัญลักษณ์ (b) จะปรากฏขึ้นบนหน้าจอแสดงผล และหัวเตาจะมีเสียงสัญญาณดังขึ้น ระบบนี้จะตัดไฟฟ้า สัญลักษณ์จะสว่างอยู่จนกว่าผู้ใช้จะมาปิด สวิตช์

หมายเหตุ: ข้าว ต้องล้างน้ำก่อนนำมาใช้ ข้าวหนึ่งส่วนต้องเติมน้ำสองหรือสามส่วน

สัญลักษณ์ต่อไปนี้จะปรากฏขึ้นบนหน้าจอแสดงผลระหว่างการทำงาน
ยังไม่ถึงอุณหภูมิที่เหมาะสม: "_"
ถึงอุณหภูมิที่เหมาะสม: "="

การประกอบอาหารด้วยน้ำปริมาณมาก
ฟังก์ชันนี้ทำให้น้ำเดือดอย่างรวดเร็วและคงอุณหภูมิเดือดเอาไว้ เหมาะสำหรับการประกอบอาหารที่ใช้น้ำเป็นหลัก และการทำอาหารในน้ำ ตัวอย่าง เช่น: ผัก มันฝรั่ง พาสต้า ฯลฯ

หมายเหตุ: ก่อนนำมาประกอบอาหาร ให้ล้างผักด้วยน้ำจนสะอาดหมดจด โดยเฉพาะมันฝรั่ง เพื่อไม่ให้เกิดฟองระหว่างทำอาหาร เมื่อน้ำเดือด (ฝาภาชนะปิดอยู่) สัญลักษณ์ "=" จะสว่างขึ้นและมีเสียงสัญญาณดังขึ้น

อาหารบางประเภทอาจเกิดฟองระหว่างการประกอบอาหาร เปิดฝาคน ให้ใช้ฝาที่มีวาล์วระบาย เมื่อประกอบอาหารที่มีน้ำปริมาณมาก อาจเป็นได้ว่ายังไม่เดือดจนเห็นได้ชัด ให้ปิดฝากระทะหรือหม้อไว้จนกระทั่งระบบต้มน้ำจนเดือดเบา ๆ ระยะ เวลาจนกระทั่งน้ำเดือดอาจขึ้นอยู่กับประเภทของกระทะและฝา

การทอด/การทอดด้วยความร้อนสูง
เหมาะสำหรับการประกอบอาหารประเภทเนื้อด้วยระดับอุณหภูมิหลายระดับ เนื้อจะปรุงสุกทั่วถึงกันและยังฉ่ำน้ำ
ฟังก์ชั่นทอด/จี่เหมาะสำหรับกระทะที่ใช้น้ำมันเพียงเล็กน้อยในการทำอาหารหรือไม่ท่วมสูงเกิน 10 มม. เมื่อน้ำมันเดือดถึงอุณหภูมิที่เหมาะสม สัญลักษณ์ "_" จะปรากฏขึ้นบนหน่วยแสดงผล เมื่อเสียงสัญญาณของเตาไฟฟ้าดังขึ้น จึงเริ่มใส่อาหารลงในกระทะ
เหมาะสำหรับการประกอบอาหารประเภทเนื้อทุกประเภท ปลา เครป หรือแพนเค้ก ไข่ ผัก ฯลฯ

หมายเหตุ: เครปกับแพนเค้ก ให้เทน้ำมันลงบนพื้นกระทะอย่างทั่วถึง วางกระทะลงบนเตาประกอบอาหาร เปิดระบบ IQ เมื่อสัญลักษณ์ "=" ปรากฏขึ้นบนหน้า จอแสดงผล ใส่แป้งเครปหรือแพนเค้กลงในกระทะ เมื่อจะทอดแผ่นถัดไป ให้เติมน้ำมันใส่กระทะ วางบนเตาเป็นเวลาราว 30 วินาทีก่อนใส่แป้งสำหรับ ทอดชิ้นถัดไป

สามารถตั้งค่าระดับกำลังไฟที่ต้องการได้ตั้งแต่เริ่มต้น หรือปรับเปลี่ยนได้ระหว่างการทำงาน
ระดับความร้อน:
ระดับ 1 = ต่ำมาก
ระดับ 2 = ต่ำ (ค่าที่ตั้งไว้)
ระดับ 3 = กลาง
ระดับ 4 = สูง

สำหรับการเลือกระดับกำลังไฟ ขั้นแรกกดโปรแกรม IQ สำหรับการทอด/การจี่ ระดับกำลังไฟที่เหมาะสมทั้งหมดตั้งแต่ 1-4 จะปรากฏขึ้นบนหน่วยแสดง ผลประมาณ 2-3 วินาที จากนั้นจะเปลี่ยนกลับมาที่ระดับ 2 (ค่าที่กำหนดไว้ล่วงหน้า) ขณะที่ระดับกำลังไฟแสดงอยู่ คุณสามารถกดแถบเลื่อนเพื่อปรับระดับกำลังไฟในการทำอาหาร ทั้งนี้คุณสามรถปรับระดับกำลังไฟในภายหลัง ระหว่าง การทำอาหารโดยกดปุ่ม IQ จากนั้นจึงตั้งค่าระดับกำลังไฟที่ต้องการ

สัญลักษณ์ต่อไปนี้จะปรากฏขึ้นบนหน้าจอแสดงผลระหว่างการทำงาน
ยังไม่ถึงอุณหภูมิที่เหมาะสม: "_"
ถึงอุณหภูมิที่เหมาะสม: "="

การละลายอาหารแช่แข็ง
ฟังก์ชันนี้เหมาะสำหรับการละลายอาหารแช่แข็งทุกประเภท

ฟังก์ชันนี้ยังเหมาะสำหรับการละลายช็อกโกแลตอีกด้วย

การอุ่นร้อนอาหาร
ฟังก์ชันนี้เหมาะสำหรับการอุ่นให้อาหารร้อนอยู่ตลอด โดยอุณหภูมิอาหารจะอยู่ที่ราว 70° เซลเซียส ทั้งยังเหมาะสำหรับการทำไวน์ร้อน
ตัวอย่าง: เมื่อทำกูลาซด้วยฟังก์ชันการประกอบอาหารอย่างช้า ๆ ให้เปลี่ยนมาใช้ฟังก์ชันอุ่นร้อนอาหารหลังจากทำเสร็จ เพื่อให้กูลาซร้อนอยู่ตลอด
สัญลักษณ์ต่อไปนี้จะปรากฏขึ้นบนหน้าจอแสดงผลระหว่างการทำงาน
ยังไม่ถึงอุณหภูมิที่เหมาะสม: "_"
ถึงอุณหภูมิที่เหมาะสม: "="

สามารถปิดเตาประกอบอาหารได้ด้วยปุ่มปิด (O) ซึ่งจะสว่างอยู่ข้างเตาประกอบอาหารที่ใช้งานอยู่ หากระดับความร้อนสำหรับเตาประกอบอาหารทุก เตาอยู่ที่ "0" หัวเตาทั้งหมดจะปิดสวิตช์เองใน 10 วินาที

เตากระจกเซรามิกยังติดตั้งจอแสดงผลคความร้อนหลงเหลือ "H" หัวเตากระจกเซรามิกจะไม่ได้ให้ความร้อนโดยตรง แต่จะทำโดยอ้อมจากความร้อนที่แผ่กลับจากกระทะเท่านั้น ตราบใดที่สัญลักษณ์ "H" สว่างขึ้นหลังจากที่ปิดเตาแล้ว จะมีความร้อนหลงเหลือในหัวเตา ซึ่งสามารถใช้เพื่อให้อาหารอุ่นหรือละลายน้ำแข็งได้ เมื่อสัญลักษณ์ "H" ดับ หัวเตาอาจยังร้อนอยู่ ให้ระมัดระวังอันตรายจากการถูกไฟลวก!

แต่ละหัวเตามีการจำกัดระยะเวลาสูงสุดในการทำอาหารไว้เพื่อความปลอดภัย ซึ่งขึ้นอยู่กับระดับกำลังไฟที่กำหนดไว้ล่าสุด หากระดับกำลังไฟไม่เปลี่ยนแปลง หัวเตาจะปิดการทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อครบกำหนดระยะเวลาสูงสุดในการทำอาหาร

*หลังจาก 10 นาทีระดับกำลังความร้อนจะลดลงไปที่ระดับ 9 โดยอัตโนมัติหลังจาก 1.5 ชั่วโมง หัวเตาจะถูกปิด

สามารถปิดสวิตช์หัวเตาเมื่อใดก็ได้ ด้วยการกดปุ่มเปิด/ปิดหัวเตา (A)

• เคาน์เตอร์ครัวอยู่ในระดับเดียวกัน

• ป้องกันขอบของช่องที่ตัดอย่างเหมาะสม

• เชื่อมต่อเตาเข้ากับแหล่งจ่ายไฟหลัก (ดูคำแนะนำเกี่ยวกับการเชื่อมต่อเตากับแหล่งจ่ายไฟหลัก)

• ใส่เตาเข้าไปในช่องที่ตัด

• เตาติดตั้งมาพร้อมกับพัดลมอยู่ที่ส่วนล่าง หากมีลิ้นชักอยู่ใต้ตู้ครัว ห้ามใช้ลิ้นชักเพื่อเก็บสิ่งของหรือกระดาษชิ้นเล็ก ๆ เนื่องจากหากสิ่งดังกล่าวถูกดูดเข้าไปในพัดลม พัดลมและระบบทำความเย็นจะเสียหาย นอกจากนี้ ห้ามใช้ลิ้นชักเก็บฟอยล์อะลูมิเนียม สารไวไฟ หรือของเหลว (เช่น สเปรย์) เก็บสารดังกล่าวให้ห่างจากเตา อันตรายจากการระเบิด!

• ควรมีช่องว่างอย่างน้อย 20 มม. ระหว่างสิ่งของในลิ้นชักและช่องระบายอากาศเข้าของพัดลม

อุปกรณ์ที่ไม่มีขอบแบบแต่งเหลี่ยมหรือเฟรมตกแต่ง เหมาะสำหรับการติดตั้งแบบฝัง

การติดตั้งอุปกรณ์

สามารถติดตั้งอุปกรณ์ได้เฉพาะบนท็อปเคาน์เตอร์ที่ทนต่ออุณหภูมิและน้ำเท่านั้น เช่น เคาน์เตอร์ที่ทำจากหิน ( ธรรมชาติ) (หินอ่อน หินแกรนิต) หรือไม้เนื้อแข็ง (ต้องปิดขอบตามช่องเจาะ) เมื่อติดตั้งบนท็อปเคาน์เตอร์ที่ทำจากไม้ เซรามิก ไม้ หรือกระจกควรใช้ซับเฟรมที่ทำจากไม้ เฟรมไม่ได้ให้มากับตัวเครื่อง สามารถติดตั้งอุปกรณ์ได้เฉพาะ บนท็อปเคาน์เตอร์ที่ทำจากวัสดุอื่น ๆ หลังจากที่คุณปรึกษากับผู้ผลิตท็อปเคาน์เตอร์และได้รับการอนุมัติอย่างชัดแจ้ง จากผู้ผลิตแล้วเท่านั้น ขนาดภายในของฐานวางอย่างน้อยควรเท่ากับช่องเจาะภายในสำหรับอุปกรณ์ วิธีนี้จะช่วย ให้ถอดอุปกรณ์ออกจากท็อปเคาน์เตอร์ได้ง่าย

อันดับแรกให้ป้อนสายไฟผ่านช่องเจาะ วางอุปกรณ์ไว้เหนือกึ่งกลางของช่องเจาะ เชื่อมต่อเครื่องกับแหล่งจ่ายไฟหลัก (ดูคำแนะนำในการเชื่อมต่ออุปกรณ์) ให้ทดสอบการทำงานก่อนซีลอุปกรณ์ ซีลช่องระหว่างอุปกรณ์และท็อปเคาน์เตอร์โดยใช้ซิลิโคนยาแนว ซิลิโคนยาแนวที่ใช้ในการซีลอุปกรณ์ต้องทนต่ออุณหภูมิ (อย่างน้อย 160 °C) ขจัดคราบซิลิโคนโดยใช้เครื่องมือที่เหมาะสม ปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้ซิลิโคนยาแนวที่เลือก ห้ามเปิดอุปกรณ์จนกว่าซิลิโคนยาแนวจะแห้งสนิท

การถอดอุปกรณ์แบบบิวท์อินออก

ถอดอุปกรณ์ออกจากแหล่งจ่ายไฟหลัก ใช้เครื่องมือที่เหมาะสมเพื่อถอดปะเก็นซิลิโคนออกจากขอบด้านนอก ถอดอุปกรณ์ออกโดยดันขึ้นจากด้านล่าง

ท็อปเคาน์เตอร์หิน

เมื่อกำหนด Margin of error (ค่าความคลาดเคลื่อน) สำหรับแผ่นกระจกเซรามิกของอุปกรณ์ และช่องเจาะบนท็อปเคาน์เตอร์แล้ว สามารถปรับช่องใส่ได้ (ต่ำสุด 2 มม.)

ท็อปเคาน์เตอร์กระจก ไม้ หรือเซรามิก

เมื่อกำหนด Margin of error (ค่าความคลาดเคลื่อน) สำหรับแผ่นกระจกเซรามิกของอุปกรณ์ และช่องเจาะบนท็อปเคาน์เตอร์แล้ว สามารถปรับช่องใส่ได้ (ต่ำสุด 2 มม.) ให้ติดตั้งเฟรมไม้ 5.5 มม. ใต้ขอบด้านบนของท็อปเคาน์เตอร์ (ดูรูปภาพ)

สังเกตรัศมีของขอบกระจก (R10, R2) เมื่อทำการตัดออก

ก่อนติดตั้งอุปกรณ์เข้ากับเคาน์เตอร์ครัว ให้ติดแผ่นโฟมซีลทีให้มาพร้อมกับอุปกรณ์ที่ด้านล่างของเตากระจกเซรามิก จากนั้นให้ลอกฟิล์มป้องกันออกจากแผ่นโฟม แล้วติดแผ่นโฟมที่ด้านล่างของกระจก (ห่างจากขอบ 2–3 มม.) ซึ่งจะต้องติดแผ่นโฟมตามขอบกระจกทั้งหมด ห้ามให้แผ่นโฟมทับซ้อนกันในมุม เมื่อติดตั้งแผ่นโฟม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแผ่นโฟมไม่ได้รับความเสียหายจากหรือสัมผัสกับวัตถุมีคมใด ๆ

การเชื่อมต่อทั่วไป

การเชื่อมต่อพิเศษ